Google Hummingbird Algorithm เปิดตัวเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2013 วัตถุประสงค์ คือ การแสดงผลค้นหาที่เกี่ยวข้องมากที่สุดโดยให้เข้าใจถึงความหมายในการค้นหาของผู้ใช้บน Google ซึ่งจะมีความแตกต่างจากอัลกอริทึมของ Google ที่มีการอัพเดทออกมาก่อนหน้านี้ คือ การมุ่งเน้น ตีความหมายจากการค้นหา ในเชิงการสอบถามหรือการตั้งคำถามในการค้นหาคำบน Google โดยให้คำอธิบายไว้ว่า ผู้ใช้งานบน Google จะใช้คำค้นหาที่สั้นและแคบลงแต่ต้องการคำตอบหรือข้อมูลที่ละเอียดต่อการค้นหานั้น และการตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบในการถามหรือโฟกัสคำตอบเป็นคีย์เวิร์ด
สิ่งที่ตอบโจทย์ต่อการค้นหาของ Hummingbird
- โพสต์หรือบล็อกมีเนื้อหาที่ละเอียดสมบูรณ์ในเชิงการตอบคำถาม
- การใช้ประโยคเช่น วิธีการทำ…อย่างไร เช่น แนะนำการใช้สินค้า วิธีการทำอาหาร เป็นต้น
- การสร้างเนื้อหาที่ดีต่อผู้ใช้บนเครือข่ายโซเซียล ซึ่งไม่ควรไปคำนึงถึงหลักการของ Google มากนัก
การแสดงผลการค้นหาของ Google Hummingbird มีดังนี้
การแสดงผล Hummingbird ตามกราฟหรือวิธีการเป็นลำดับ
การค้นหาส่วนประกอบหรือหลักการที่มีลำดับขั้นตอน Google จะแสดงผลการค้นหาโดย จัดลำดับตามขั้นตอนที่เว็บไซต์นั้นมีข้อมูล ซึ่งมีการแสดงบนหน้า Google ก่อนการคลิ๊กเข้าไปหน้ายังเว็บไซต์
Hummingbird กับการค้นหาที่ที่ตั้ง, พื้นที่
การแสดงผลการค้นหาของ Hummingbird บนกูเกิ้ลแสดงผลการค้นหาของพื้นที่ที่มีความนิยมที่สุดโดยการเชื่อมต่อการทำงานกับ ไดเรดทอรีที่ปรากฏในสถานที่นั้น ๆในการค้นหาสิ่งที่ผู้ค้นหาระบุรายชื่อในการค้นหา
หากคุณได้รับผลกระทบจาก Hummingbird ในกรณีที่การค้นหาบนในพื้นที่นั้นลดลงให้ศึกษาดูการอัพเดทของ Google ทั้งหมดเพราะเว็บไซต์โดยส่วนมากจะไม่ได้รับผลกระทบจากการอัปเดตนี้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากการเปลี่ยนแปลงอื่นของ Google Update เช่น Panda หรือ Penguin
การใช้ Google Voice ในการค้นหาด้วยเสียง
เพียงแค่การตั้งคำถามของคุณบน Google โดยใช้การค้นหาด้วยเสียงจะสามารถเข้าถึงคำตอบจากการถามทันทีโดยที่คุณได้ต้องอ่าน หากต้องการหาคำ ๆ หนึ่งซึ่งกำลังหาว่าแปลว่าอะไรการทำงานของ Google ก็สามาถอธิบายให้คุณได้ถึงความหมายและหากกำลังหากวิธีการ หรือการซ่อมรักษา กูเกิ้ลก็สามารถอธิบายตามขั้นตอนให้คุณได้จากการทำงานของ Hummingbird ซึ่งสามารถทำงานได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ
การค้นหาคำในประโยคยาว ๆ หรือการค้นหาในเชิงการตั้งคำถามซึ่งผู้ค้นหาต้องการที่จะพบคำตอบ เช่นขั้นตอนการทำ วิธีการทำอย่างไร เป็นต้น บางครั้งอาจจะค้นหาเพื่อต้องการคำตอบเป็นคีย์เวริ์ดหรือคำ ๆ เดียว ดังนั้นการเขียนคอนเท้นต์ต้องคำนึงถึงการตั้งคำถามของผู้ใช้และเขียนคำตอบที่ต้องการ
สำหรับบทความหากเป็นไปได้คุณไม่ต้องคำนึงถึงหลักการของ Google มากเกินไปเพียงแต่บทความนั้นเป็นประโยชน์และดีต่อผู้ใช้เอง เว็บไซต์ของคุณก็มีโอกาสขึ้นมาอยู่ในอันดับแรก ๆ ได้เช่นกัน สิ่งที่ไม่ควรทำในการทำเว็บไซต์ คือ การกำหนดใส่คำหลักที่ตรงจนเกินไปและมีคีย์เวิร์ดในเนื้อหามากเกินไปอาจทให้ผู้ค้นหาไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณสื่อสารได้ซึ่งการทำเช่นนี้ ไม่ส่งผลดีต่อเว็บไซต์ของคุณเอง
