หากใครที่ทำ SEO ไม่ว่าจะทำมามากน้อยเพียงใดก็ตาม จะต้องรู้จักหรือเคยได้ยินคำว่า Backlink (แบ็คลิ้งค์) อย่างแน่นอน ถ้าใครเข้าใจว่ามันคืออะไรแล้ว จะข้ามหัวข้อนี้ไปเลยก็ได้นะครับ หากใครที่อยากรู้ว่ามันคืออะไร หรืออยากที่จะอ่านในเวอร์ชั่นที่ (น่าจะ) เห็นภาพได้ง่ายในชีวิตประจำวันและใกล้ตัวเรามากที่สุด มาอ่านกันต่อได้เลยครับ
Backlink (แบ็คลิ้งค์) คือหนึ่งในวิธีการที่เกี่ยวข้องโดยตรงเลยกับ SEO ซึ่งเป็นส่วนของ Off-Page หากกล่าวแบบนี้ อาจคงยังไม่เห็นภาพชัดเจนเท่าไหร่นัก เดี๋ยวผมจะยกตัวอย่างให้ใหม่ทั้งหมดในมุมมองส่วนตัวของผมเองเวอร์ชั่นเห็นภาพได้ง่ายจากประชาธิปไตยแบบไทยๆ กันเลย
ในการที่เว็บไซต์ 1 เว็บนั้นจะสามารถมีอันดับที่ดี (เหนือกว่าคู่แข่ง) ในคีย์เวิร์ดหรือคำค้นหาที่ง่ายไปจนถึงคำที่ยากมากๆ Backlink ก็เป็นส่วนที่ถือได้ว่าสำคัญที่ Google ใช้เป็นน้ำหนักในการจัดอันดับในหน้าต่างๆ อย่างเหมาะสม ในอดีต 1 Backlink ก็อาจจะเปรียบเหมือน 1 คะแนนโหวต ยิ่งมีปริมาณแบ็คลิ้งค์มายังเว็บของเรามากเท่าไหร่ โอกาสที่จะติดหน้าแรกและเป็นที่หนึ่ง ก็ยิ่งมีโอกาสสูงตามไปมากเท่านั้น
เข้าเรื่องเลยในมุมของ “แบ็คลิ้งค์” กับ “การเลือกตั้ง (ประชาธิปไตย)” ที่น่าจะใกล้เคียงกัน
- ในการเลือกตั้ง ผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดจากประชาชนในอดีต จะได้รับการเลือกตั้งให้เข้าไปทำหน้าที่ในรัฐสภา สิ่งนี้นั้นเองครับ ที่มันเหมือนกัน แต่แล้วใน การเลือกตั้งบางครั้ง ก็จะมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง (เรียกได้ว่าหนึ่งในการโกงการเลือกตั้ง) เพื่อให้ชนะ ในมุมมองของ Backlink ด้าน SEO ก็เช่นกัน ผู้คนจำนวนมาก (ในอดีต) จึงจะพยายามหาแบ็คลิ้งค์ ให้มากที่สุดทุกวิธี เพื่อให้เว็บติดอันดับ รวมถึงการซื้อขายแบ็คลิ้งค์ด้วย
- ทุกพรรคการเมืองมักมีหัวคะแนน และฐานเสียงของตัวเองอยู่เสมอ กลุ่มบริษัทที่ รับทำ SEO จำนวนมากก็เช่นกัน จะมีฐานที่เป็น PBN (Private Blog Network) หรือมีเว็บไซต์ในมืออยู่จำนวนมาก เพื่อทำ Backlink ให้กับเว็บของลูกค้า เพื่อให้ติดอันดับแบบทางลัด
- พรรคไหนที่มีหัวหน้าพรรคหรือมีผู้นำที่โดดเด่น มักถูกรับเลือกและจับตามองเป็นพิเศษ ในเชิง SEO ก็ไม่แตกต่างกันเลย ตรงที่เว็บไหนที่มีความดูดีโดดเด่นเป็นพิเศษ Google เองก็มักให้ความสำคัญและจับตามองมากที่สุดกว่าเว็บที่ดูไม่มีอะไร
- พรรคที่โกงการเลือกตั้ง (โกงแบบไม่เนียน) มักถูกแบนหรือตัดสิทธิ์ ซึ่งด้าน SEO บน Google นั้นยิ่งไม่ต่างกันในประเด็นนี้เลย อดีตเว็บที่ดูมี Backlink ผิดปกติ Google มักจะแบนเว็บนั้นๆ ไม่ให้แสดงผลการค้นหาในทันที แต่อย่างไรก็ตามในอดีตการประมวลผลตรวจสอบโดย Google Algorithm ยังไม่มีความละเอียดในการตรวจสอบเท่าปัจจุบัน จึงมีเว็บจำนวนมากที่หลุดรอดไป
- พรรคที่ไม่เคยมีคนรู้จัก โนเนม โปรไฟล์ไม่ดี กลับมีคะแนนที่เยอะผิดปกติ ย่อมเป้นที่สังเกตุจริงไหม Google ก็เช่นกัน ตรวจสอบไม่ยากเลย หากเว็บไหนทำแบบกากๆ มา ไม่เคยเป้นที่รู้จัก (เป็นเว็บใหม่) แต่กลับมี Backlink เข้าเว็บเยอะมากผิดปกติ จะไม่ให้ Google สงสัยได้อย่างไร ในอดีตจะมีกระบวนการที่เรียกว่า “หลุมทราย (Sandbox)” ซึ่งเว็บที่ถูกหลุมทรายนั้นจะหายไปจากกูเกิ้ลแบบชั่วคราว เพื่อนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีการโกงหรือไม่ก่อนนั้นเอง
แต่แล้ววันหนึ่ง “การตรวจสอบมันกลับเข้มข้นขึ้น” วิธีการแบบเดิมๆ จึงใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
เมื่อมีอะไรที่ใกล้เคียงกับคำว่า “โกง” เกิดขึ้น คำว่า “ตรวจสอบ” มักย่อมมีตามมา แต่ทว่า การตรวจสอบนั้น เข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ การเลือกตั้งแต่ละครั้ง เริ่มมีการตรวจสอบการซื้อสิทธิ์ขายเสียงมากขึ้น และ Google ก็เริ่มพัฒนา Algorithm อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา (บันทึกการเปลี่ยนแปลงของ Google Algorithm) เพื่อคัดกรองเว็บไซต์ “มีคุณภาพ” และ “ไร้คุณภาพ” และทำทุกอย่าง เพื่อให้ในการจัดอันดับผลการค้นหา ได้ผลลัพธ์ที่ดี ที่สุด และตรวจสอบว่าเว็บไหนที่เป็น SEO Network แบบไร้คุณภาพ และกำจัดทิ้งออกไปทันที
ดังนั้นวิธีการแบบเดิมที่เคยทำกันมาเกี่ยวกับ Backlink ที่เคยดูเหมือนทำกันได้ง่าย มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป และเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวของเหล่านักทำ SEO เพื่อคิดหาวิธีและกลยุทธ์ใหม่ๆ อยู่เสมอในการทำลิ้งค์เพื่อเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อเป้าหมายของอันดับที่ดีบน Google นั่นเอง
ทั้งหมดในบทความนี้ก็เป็นเพียงแค่มิติหนึ่งที่ สร้างความปวดหัวให้เหล่าคนทำ SEO ไม่น้อยเลย ในขณะที่บางท่านยังไม่เข้าใจ และบางครั้งก็คิดว่าการจ้างนักทำ SEO แต่ละครั้งนั้นมันง่ายไม่น่าปวดหัว แท้จริงแล้วมันโคตรมีความซับซ้อนอยู่พอสมควร เป็นเหมือนงานศิลปะที่ต้องใช้ความปราณีตตั้งใจ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาอย่างยั่งยืนและดีที่สุด แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไปและติดอันดับแล้ว มันก็คุ้มค่าการรอคอยอย่างแน่นอนครับ
บทความโดย: Anurak Piamjad
